Loading...

แชร์

Copied!

Thai PBS Verify ถ่ายทอดองค์ความรู้ Fact-Checking ร่วมเสริมทักษะตรวจสอบข่าวให้สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

15 ธ.ค. 68 | 20:23 น.
Thai PBS Verify ถ่ายทอดองค์ความรู้ Fact-Checking ร่วมเสริมทักษะตรวจสอบข่าวให้สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

สารบัญประกอบ

    Thai PBS Verify ร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ในการ Fact Checking & Verification ยกระดับวิชาชีพสื่อมวลชนสกัดกั้นข่าวปลอม

    สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) โดยการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดอบรม One Day Training ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 หัวข้อ “Fact Checking & Verification เรียนรู้กระบวนการตรวจสอบข่าวปลอม ภายใต้กรอบจริยธรรมสื่อมวลชน” เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายให้สื่อมวลชนและผู้ปฏิบัติงานด้านข่าวออนไลน์ มีเครื่องมือและกรอบคิดเพียงพอในการรับมือกับข่าวลวงที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน

    สำหรับการอบรมในครั้งนี้ คุณกนกพร ประสิทธิ์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จากการจัดตั้งทีม Thai PBS Verity ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือนบนโลกออนไลน์ การเรียนรู้ตั้งแต่ ต้นทางของข่าวปลอม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ทำความเข้าใจว่า ข่าวปลอมเกิดขึ้นได้อย่างไร มีรูปแบบและกลไกการเผยแพร่แบบใดบ้าง รวมถึงเรียนรู้หลักคิดสำคัญในการตั้งคำถามกับข้อมูลที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ก่อนจะเชื่อหรือส่งต่อ

    กนกพร ประสิทธิ์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์จากการจัดตั้งทีม Thai PBS Verity

    ขณะที่ ทีม Thai PBS Verify ยังได้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการ Fact-Check หรือการตรวจสอบข่าวปลอม โดยหนึ่งในหัวใจสำคัญของการอบรม คือการฝึกใช้เครื่องมือ Reverse Image Search การตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจสอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ เครื่องมือตรวจสอบภาพ AI จากเว็บไซต์ต่าง ๆ การใช้แผนที่ Google Maps เพื่อตรวจสอบแผนที่รวมไปถึง การสังเกต เพื่อค้นที่มาของภาพว่าถูกนำมาจากเหตุการณ์ใด เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน หรือถูกนำมาบิดเบือนบริบทหรือไม่ ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นในยุคที่ภาพจากต่างประเทศหรือภาพที่สร้างด้วย AI ที่ถูกนำมาอ้างเป็นเหตุการณ์จริงบ่อยครั้ง

    ทีม Thai PBS Verify ยังได้ถ่ายทอดกระบวนการ Fact & Policy Checking ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจการตรวจสอบทั้งข้อเท็จจริงเชิงเหตุการณ์ และการตรวจสอบนโยบายหรือคำกล่าวอ้างของหน่วยงานและบุคคลต่าง ๆ เพื่อประเมินความถูกต้อง ความสอดคล้อง และผลกระทบของข้อมูลที่เผยแพร่สู่สาธารณะ

    ทีม Thai PBS Verify

    นอกจากนี้ยังมีเวทีเสวนาในหัวข้อ “ความท้าทายของสื่อมวลชนไทย ท่ามกลางสถานการณ์ข่าวลวง” ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วน ร่วมถอดบทเรียนจากประสบการณ์ตรง และชี้แนะแนวทางทำงานข่าวในยุคที่ Fake News กลายเป็น “คู่แข่ง” คนสำคัญของความจริง

    ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย

    ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
    คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บมจ.อสมท.
    คุณนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

    เวทีเสวนา “ความท้าทายของสื่อมวลชนไทย ท่ามกลางสถานการณ์ข่าวลวง”

    ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้ความคิดเห็นถึงการส่งเสริมสื่อไทยในยุคข่าวปลอมแพร่ระบาดว่า ทางกองทุนพยายามส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรสื่อมวลชนทั้งหลาย เข้ามาร่วมกันในการเป็นเครือข่ายที่เราเรียกว่า Thailand Fact Checking Network โดยเราพยายามร่วมผลักดันให้เกิดการพัฒนามาตรฐานของกองบรรณาธิการในการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือ Fact-Checking เข้ามาในองค์กรสื่อต่าง ๆ ซึ่งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้สนับสนุนทั้งในเรื่องเกี่ยวกับการให้ความรู้ การจัดอบรม ในเรื่อง Fact-Check ทั้งในเชิงปฏิบัติการ และในเชิงของการเป็นกองบรรณาธิการ

    นอกจากนี้ยังได้มีการสนับสนุนในเรื่องเกี่ยวกับทุนให้กับองค์กรสื่อ หรือสมาคม สมาคมสมาพันธ์ สภาวิชาชีพด้านสื่อมวลชน ในการที่จะพัฒนาการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเราเชื่อมั่นว่าในการรายงานข่าวปัจจุบัน มีการใช้ภาพใช้หรือวิดีโอจากเครือข่ายสังคมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นกระบวนการในการใช้เครื่องมือทางดิจิทัลเข้ามาในการสนับสนุนการตรวจสอบข้อเท็จจริง การตรวจสอบข่าวปลอม โดยเฉพาะยิ่งเมื่อปัจจุบันมีการใช้ AI ทุกช่องทาง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ถ้าสื่อมวลชนของประเทศไทย สามารถที่จะเรียนรู้เทคนิคในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหล่านี้ เราก็จะสามารถที่จะผลิตข่าวที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน เพื่อให้สังคมที่ประชาชนเป็นผู้รับสื่อสามารถเกิดความมั่นใจ เป็นสังคมที่เกิดการรู้เท่าทันสื่อ

    อย่างไรก็ตามในปี 2569 ทางกองทุนฯ หวังว่า ทุกองค์กรสื่อมวลชนในประเทศไทย จะมีกลไกเรื่อง Fact-Check ในหน่วยงานของตัวเอง เพราะว่าปัจจุบันคำถามไม่ใช่ว่าเราจะเจอ AI หรือไม่ แต่คำถามคือเราจะเจอเมื่อไหร่ และหากเราไม่ได้เรียนเทคนิคการตรวจสอบเหล่านี้ โดยเฉพาะหากเป็นสำนักข่าวที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชน ที่หากหลงนำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่ต่อ โดยคิดว่าเป็นความจริง ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด เกิดความหวาดกลัว หรือเกิดความตื่นกลัว ฉะนั้นเราถึงอยากจะให้ทุกสำนักข่าวมาตระหนักรู้ถึงความสำคัญของกระบวนการในการตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วนำกระบวนการเหล่านี้เข้าไปอยู่ในกระบวนการผลิตข่าว ในการค้นหาแหล่งข่าวหรือการเปรียบเทียบแหล่งข่าวต่าง ๆ

    เรายังมองไปไกลกว่านั้น คืออยากจะให้ผู้ที่เรียกตัวเองว่า Influencer หรือผู้ที่ไปเอาข่าวจากแหล่งอื่นเอามาเผยแพร่ต่อ อยากจะให้คนเหล่านี้หันมาสนใจเรื่องเหล่านี้ด้วย เพราะว่าการที่เขาเอาข้อมูลที่บางครั้งอาจจะไม่ถูกต้องเอาไปเผยแพร่ เอาไปกระพือต่อ มันสามารถสร้างผลกระทบต่อสังคมได้

    ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

    ขณะที่ คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บมจ.อสมท. ซึ่งทำงานด้านการตรวจสอบข้อมูลออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยถึงความท้าทายในปี 2569 ว่า ในปี 2569 สิ่งที่ท้าทายก็คือเทคโนโลยี ข่าวลวงหรือข่าวน่าสงสัยที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือมาจากเทคโนโลยีเนี่ย จะเป็นตัวที่ต้องระวัง เช่น AI มีส่วนมากขึ้นในการทำภาพที่แนบเนียนมากขึ้น

    “หลายคนจะยังเข้าใจว่าภาพ AI ยังมีจุดบกพร่อง แต่ในปี 2569 แม้แต่วิดีโอหรือวิดีโอสดก็ตาม ก็จะได้เห็นว่ามันมีความแนบเนียนสูง ดังนั้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เป็นเรื่องของภาพและเสียง อาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องนี้ ก็คือเรื่องของความแนบเนียนของวิดีโอและเสียง ที่สร้างจาก AI

    อีกความท้าทายหนึ่ง คือการสื่อสารให้กับคนจำนวนมากได้เข้าใจในข้อเท็จจริง แม้มันจะเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของเขา ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย ที่ถือเป็นโจทก์ที่ยากขึ้น และการสื่อสารออกไปก็ต้องระวังมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประทับตราบอกว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนไม่จริง จริงบางส่วน ส่วนไหนจริงส่วนไหนไม่จริง ก็จะส่งผลกระทบมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีความระมัดระวังในการนำเสนอ

    พีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บมจ.อสมท.

    ส่วนประเด็นความท้าทายที่ 3 คือสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง ภัยพิบัติ ความเดือดร้อนต่าง ๆ รวมถึงสถานการณ์สู้รบชายแดน เรื่องพวกนี้ถือเป็นเสมือนสนามรบ เป็นเหมือนสถานที่ที่จะเป็นเป็นจุดที่ทำให้ความยากของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยากมากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณ ทั้งในเชิงผู้ส่งสาร ผู้สร้างสาร และฝั่งผู้รับสาร เนื่องจากมีทั้งปริมาณ ความรวดเร็ว และเรื่องของความแนบเนียน

    “สำหรับสิ่งที่ท้าทายสำหรับการตรวจสอบข่าวในปี 2569 คือเรื่องของความแนบเนียนที่มากขึ้น รวมถึงผู้รับสารที่มีความคิดเห็นที่หลากหลายมากขึ้น ที่อาจจะไม่ได้ยึดที่ข้อเท็จจริงเท่านั้น และ 3 คือสถานการณ์ที่มาเร่ง หรือสถานการณ์ที่มาทำให้เกิดความระอุ และความความแพร่หลายของข้อมูลเท็จ”

    สำหรับโครงการอบรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการความร่วมมือองค์กรสื่อขับเคลื่อนพัฒนาวิชาชีพและส่งเสริมจริยธรรมสื่อ เพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์” ซึ่ง SONP ร่วมดำเนินการกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ผู้เข้าร่วมไม่เพียงรับฟังบรรยายเชิงทฤษฎี แต่ยังได้ฝึกปฏิบัติจริง ตั้งแต่การตรวจสอบต้นทางข่าว ไปจนถึงการกลั่นกรองเนื้อหาเพื่อสื่อสารเตือนภัยต่อสาธารณะอีกด้วย

    การอบรมครั้งนี้ไม่เพียงมุ่งสร้างนักตรวจสอบข่าวปลอม แต่ยังปลูกฝังแนวคิดการเป็น พลเมืองรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) ให้ผู้เข้าร่วมสามารถแยกแยะข้อมูลจริงออกจากข้อมูลเท็จได้ด้วยตนเอง และมีส่วนร่วมในการหยุดยั้งการขยายตัวของข่าวปลอมในสังคม

    บรรยากาศผู้เข้าอบรม One Day Training ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2

    สารบัญประกอบ